21.8.11

เช้าวันที่ 14 มิถุนายน 2554

6:23:58
แสงแรกแย้มแทงเข้าสู่ดวงตา ณ.ออฟฟิศ ย่านลาดพร้าวใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ
เสียงถกเถียกดังเข้าในหู ปลุกให้ลุกออกจากความฝัน เสียงตุบๆๆๆที่ชัดเจนในสมอง แหงนหน้าขึ้นมอง เห็นใบหน้าพี่ๆที่อดหลับอดนอนกับคอมพิวเตอร์อาร์ทฉบับรีดีไซน์ ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ เดินออกไปเปิดประตู อ้าแขนพร้อมสูดหายใจรับออกซิเจนในตอนเช้า ช่างสดชื่นและน่าประทับใจซะเหลือเกิน ความสุขกำลังเดินทางมาจุดถึงพีคและไม่มีใครรู้ว่ามันกำลังจบลง

โบกมือเรียกมอเตอร์โซ์วินคันแรกเพื่อกลับบ้าน แต่มันดันขับผ่านไปพร้อมตะโกนบอกไม่รับเพราะอยู่ในเขตแดนของอีกวิน (ห่า1) แถมทำหน้ากวนตีน โบกมือเรียกใหม่ มอเตอร์ไซค์อีกคันที่จอดรับ แต่ทำหน้าโคตรกวนส้นตีนสุดจะบรรยาย (ห่า2) ความชิบหายยังเดินทางมาไม่ถึงครี่งเรือง ถึงที่หมายควักแบงค์ร้อยให้ มันบอกไม่มีทอน (ห่า3) โชคดีจอดหน้าร้านขายยำที่เพิ่งซื้อและหยอกล้อกันไปเมื่อวานแต่มันไม่ให้แลกเงิน เพราะเจ้านายสั่งไว้ว่าห้ามและเหรียญตอนเช้า (ห่า4) เดินข้ามสะพานลอยสู่รถเมลล์มุ่งหน้ากลับบ้าน นัยต์ตาพร่ามัว อ่อนแรงล้า เพราะโคตรที่จะง่วงนอน เด็กนักเรียนมัธยมชาย-หญิงกำลังนัวเนียกันบนรถเมลล์ (ห่า5) ปลุกความง่วงให้กลับมาสดชื่นขึ้นอีกครั้ง เด็กนักเรียนพานิชย์แต่งตัวสไตล์ฮาราจูกุ ทาลิปสติกสีชมพู เพนท์เล็บสีขาวลายการ์ตูนน่ารักแอ๊บแบ๊วที่ขัดกับสีผิวเหมือนหลุดมาจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น (ห่า6) เธอมองมาที่หน้ากผม พร้อมบอกเป็นนัยต์ให้ลุก แต่ผมไม่ลุกเพราะยืนไม่ไหว แต่เธอก็noแคร์ เพราะเธอหันไปเจอเก้าอี้ว่างด้านหน้า มหัศจรรย์ใจเธอมีจิตใจงดงามราวซินเดอเรล่า เธอลุกขึ้นให้คนแก่ที่เพิ่งขึ้นมาใหม่นั่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผมละอายใจตัวเอง (ห่า7) เช้านี้ช่างมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ก็ได้แต่คิดว่านี่แหละเป็นของขวัญสำหรับการตื่นเช้า(แต่กูไม่ได้นอน) ทำให้ผมนั่งบ่นงึมงัมกับตัวเองตลอดทาง ว่าการตื่นเช้ามันก็ให้อะไรเราใหม่ๆได้เหมือนกัน อีกใจก็กำลังคิดไปถึง Thesis ที่กำลังร่อแร่ (ห่า8) เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นในเช้านี้มีอยู่สามสิ่ง หนึ่งขนมตาลที่ซื้อเพื่อแลกแบงค์ร้อยดันร่อยไม่ใช่เล่น สองเด็กพาณิชย์สไตล์ฮาราจูกุคนนั้น สามได้ถึงบ้าน และนอน

No comments:

Post a Comment